*นอกจากการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและหุ้นกู้แล้ว ยังมีการจัดอันดับควมน่าเชื่อถือของประเทศ(Sovereign Credit Rating) กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ และ อื่นๆอีกมากมาย
CRA ที่ครองตลาด 3 อันดับแรก ได้แก่ Moody's, S&P,และ Fitch Ratings ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 90%
สำหรับประเทศไทยปัจจุบัน CRA ที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ในการจัดอันดับหุ้นกู้ในประเทศ มี 2 แห่ง คือ บริษัท ทริส เรตติ้ง จำกัด www.trisrating.com และ บริษัท ฟิทช์ เรตติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด www.fitchratingsasia.com
*กลต.บังคับว่าหุ้นกู้ทุกรุ่นต้องผ่าน Credit Rating นอกจาก เสนอขายภายในวงจำกัด private placement และวงเงินน้อยกว่า 100 ล้านบาท
การจัดอันดับเครดิต แบ่งเป็น ความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้น และ ความสามารถในการชำระหนี้ระยะยาวตัวอย่างสัญลักษณ์เป็นดังตาราง ด้านล่าง

ขอบคุณภาพจาก : http://www.moneyland.ch/resources/public/vendors/kcfinder/upload/images/Rating-Agenturen.jpg
ซึ่งโดยทั่วไป จะแบ่งออกเป็น 2 เกรด คือ
1.Investment Grade หมายถึงอันดับ BBB ขึ้นไป
2.Non-Investment Grade หมายถึง อันดับ BB ลงมา
นอกจากนี้ CRA ยังมีการออก Rating Outlook เพื่อแสดงการคาดการณ์แนวโน้มอันดับเครดิต โดยมีทั้งแบบ Positive Outlook แสดงถึงแนวโน้มปรับเพิ่มอันดับเครดิต หรือแบบ Stable Outlook และ Negative Outlook แสดงถึงแนวโน้มคงที่หรือปรับลดตามลำดับ ดูตัวอย่าง Rating Outlook ได้ตามตาราง (Hi-light สีเขียว)
มาดูตัวอย่างการจัดอันดับของ TrisRating กัน
15/10/2014 TRIS Rating Assigns Company Rating of “EDL-Gen” at “BBB+" with “Stable” Outlook
ที่มา:http://www.trisrating.com/en/news/press-release.html?start=20
ผลของอันดับเครดิตต่ออัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ (Coupon Rate)
บริษัทที่มีอันดับเครดิต ดีกว่า จะสามารถออกหุ้นกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า
ในทางกลับกัน บริษัทที่มีอันดับเครดิตต่ำ จะต้องออกหุ้นกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า
เพื่อดึงดูดผู้ลงทุน หรือเรียกว่า Risk Premium นั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น